มันสำปะหลังอินทรีย์

มันสำปะหลังอินทรีย์
แนวทางใหม่ในการเพิ่มผลผลิตมันสำปะหลัง

วันพฤหัสบดี, สิงหาคม 18, 2559

อินทรีย์วัตถุ (organic matter)

อินทรีย์วัตถุ (organic matter)



"ผมใส่ปุ๋ยไปไร่ละตัน ทำไมมันสำปะหลังผมมันไม่ค่อยลงหัวเลยครับ 1ปีผ่านไป ถอนออกไปขาย หัวมันผมยังกับ ตัวไส้เดือน " มันขาดอะไรหรือครับอาจารย์" เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง คนขนยัน ถามผม
ผมก็เลยย้อนกลับไปว่า สงสัยจะขาดน้ำครับ ปีนี้ประเทศไทยแล้งจัด " ไม่เลยครับอาจารย์ผมปลูกมันน้ำหยด ให้มันกินทุกอย่าง ปุ๋ยก็ให้ น้ำก็ไม่ขาด ต้นโตดีแท้ แต่หัวไม่มี " พาผมไปดูแปลงมันที่ถอนแล้วได้ไหม ผมบอก
ไปถึงแปลงเกษตรกร ผมตอบเขาทันทีว่า ดินพี่ขาดอินทรีย์วัตถุ (organic matter) เพราะผลจากการวัดค่าดิน มีค่าความเป็นกรดสูงมาก ดินแข็งกระด้าง ราดน้ำยังไม่ค่อยจะลงเลย
อินทรีย์วัตถุคืออะไร มีขายที่ไหน กระสอบละกี่บาท ผมจะซื้อมาใส่ เกษตรกรคนเก่ง โยนคำถามใส่ผมทันที
วันนี้มารู้จักอินทรีย์วัตถุกันนะครับ
อินทรียวัตถุ เป็นส่วนที่ได้จากการเน่าเปื่อยผุพังสลายตัวของ เศษซากพืชและสัตวที่ทับถมกันอยูในดิน อินทรียวัตถุมีปริมาณธาตุอาหารพืช อยู่น้อย แต่มีความสำคัญในการทำใหดินโปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำและถายเท อากาศไดดี ทั้งยังเป็นแหล่งพลังงานของจุลินทรีย์ในดิน
ปริมาณอินทรย์วัตถุในดินที่พืชส่วนใหญ่ต้องการ คือ 3-5 เปอร์เซ็นต์ แต่ปัจจุบันดินที่ใช้เพาะปลูกพืชเศรษฐกิจในประเทศไทย มีอินทรีย์วัตถุในดินไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์
ประโยชน์ของอินทรีย์วัตถุ พูดกันให้ชัด ๆ ว่ามันประโยชน์อย่างไร คำถามนี้คงเป็นคำถามที่หลายคนอยากถามผม ผมก็ตอบชัด ๆ ว่า พืชกินอาหารโดยการแลกเปลี่ยนอิออน ไม่ได้กินสารประกอบ อินทรีย์วัตถุมีประจะเป็นลบมีหน้าที่จับประจุบวก ถ้าไม่มีอินทรีย์วัตถุ(ประจุลบ) ธาตุอาหารพืชที่เป็นประจุบวก พืชก็นำไปใช้ได้น้อย หรือ นำไปใช้ประโยชน์ไม่ได้เลย
ยุ่งละสิ ถ้าหลายคนพอมีความรู้เรื่องเกษตรอยู่บ้าง ก็คงพอสรุปได้ว่า พืชต้องการธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรอง คือ N P K Ca Mg S ธาตุอาหารเหล่านี้แตกตัวเป็นอิออนให้ประจุบวกหมดเลย ยกเว้น ไนโตรเจน เมื่อไม่มีตัวจับประจุบวก พืชก็ไม่สามารถใช้ประโยชน์จากปุ๋ยเคมีที่เราใส่ลงไปในดินได้เลย ใช้ได้แต่ไนโตรเจน มันสำปะหลังก็เลยโตแต่ต้น แต่ไม่ลงหัว
มาถึงตรงนี้คงพอจะเห็นประโยชน์ของ อินทรีย์วัตถุกันแล้วนะครับ อินทรีย์ที่พืชขาดมานาน พืชไม่ได้ขาดปุ๋ย แต่พืชขาด อินทรีย์วัตถุ อินทรีย์วัตถุมีประสิทธิภาพในจับอิออนของปุ๋ยให้พืชนำไปใช้ประโยชน์ได้
ฉนั้นเมี่อรู้อย่างนี้เรามาเพิ่มอินทรีย์วัตถุ ลงสู่ดินให้พืชกันเถอะ อินทรีย์วัตถุเอามาจากไหน มูลสัตว์ทั้งปวงคืออินทรีย์วัตถุ ซากพืช เปลือกไม้ ใบไม้ เศษหญ้า คืออินทรีย์วัตถุ

วันอังคาร, สิงหาคม 16, 2559

ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกพืช


เป็นรูปภาพโครงสร้างที่อยู่ในใจทุกครั้งเวลาผมจะทำการปลูกพืช ผมอยากให้ภาพนี้ติดอยู่ในใจของเกษตรกรทุกท่านที่จะทำการปลูกพืช ถ้าเราไม่เข้าใจความต้องการเบื้องต้นของพืชแล้ว การปลูกพืชทุกครั้งของเราก็จะประสบกับปัญหาต่าง ๆ ตามมามากมาย เช่นปลูกแล้วพืชไม่โต ปลูกพืชแล้วอ่อนแอ ขี้โรค ปลูกพืชแล้วโตแต่ต้นไม่ได้ผลผลิต หรือ ได้ผลผลิตแล้วแต่รสชาติไม่อร่อยไม่เป็นที่ต้องการของตลาด
เรามาเรียนรู้เรื่องดินกันบ้างนะครับ ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกพืชให้เจริญเติบโตได้ดี ควรมีคุณสมบัติอย่างไรบ้าง
องค์ประกอบของดิน ที่ปลูกพืชแล้ว พืชเจริญเติบโตได้ดี ต้องประกอบด้วย 4 สัดส่วนที่สมดุลซึ่งกันและกันดังนี้
(1) อนินทรียวัตถุ เป็นส่วนที่ได้จากการผุพังสลายตัวของหินและแร่ เป็นแหล่งธาตุอาหารของพืช ดินส่วนใหญที่ใช้ปลูกพืชในประเทศไทย มีอนินทรียวัตถุเป็นสวนประกอบถึงร้อยละ 97-99 ของน้ำหนักแห้งของดิน
(2) อินทรียวัตถุ เป็นส่วนที่ได้จากการเน่าเปื่อยผุพังสลายตัวของ เศษซากพืชและสัตวที่ทับถมกันอยูในดิน อินทรียวัตถุมีปริมาณธาตุอาหารพืช อยู่น้อย แตมีความสำคัญในการทำให้ดินโปร่ง ร่วนซุย ระบายน้ำและถายเท อากาศไดดี ทั้งยังเป็นแหลงพลังงานของจุลินทรีย์ในดิน ดินส่วนใหญ่ที่ใช้เพาะปลูกพืชในประเทศไทยมีอินทรียวัตถุเหลืออยู่น้อยมากๆ โดยเฉพาะอยางยิ่งดินใน ภาคอีสาน มีอินทรียวัตถุต่ำมาก ไม่ถึง 1เปอร์เซ็นต์ ฉนั้นเกษตรกรจึงควรให้ความสำคัญต่อการเพิ่มอินทรีย์วัตถุให้แก่ดิน
(3) น้ำในดิน ทำหน้าที่ ช่วยละลายธาตุอาหารพืชในดิน และจำเป็น สำหรับใช้ในการเคลื่อนย้ายธาตุอาหาร และสารประกอบตางๆ ในต้นพืช
(4) อากาศในดิน ทำหน้าที่ให้ ออกซิเจนแก่รากพืชและจุลินทรียในดิน ช่องว่างอากาศในดินมีส่วนทำให้ดินโปร่ง ร่วน ซุย รากพืชเจริญเติบโตได้ดี
เมื่อรู้อย่างนี้แล้วว่า พืชต้องการดินแบบใด เราก็นำความรู้นี้มาปรับปรุงดินเพื่อให้เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของพืช ไม่ว่าเราจะปลูกพืชลงดิน เราจะปลูกพืชลงกระถาง ปลูกพืชในวงบ่อ
ซึ่งโอกาสต่อไปเราจะได้มาเรียนรู้เรื่องการปรับปรุงดินให้เหมาะสมต่อการปลูกพืชกันต่อนะครับ